วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แปรรูปอาหาร ผลิต ทางการเกษตร

คิดแปรรูปอาหาร ผลิต ทางการเกษตร
.
เริ่มต้น ยังไม่ต้องติดเรื่อง อย. แล้ะสถานที่ประกอบกิจการ
.
มองก่อนว่า เรามี อะไรเป็นวัตถุดิบหลัก
แล้วที่จะทำ มันตรงกับนิสัย คนไทยไหม
เอาแค่นี้ก่อน
.
สมมุติ มีข้าวไรท์เบอรี่
ฝันหวานว่าจะขายได้โลละ 50บาท เทน้ำเทท่า
.
เฮ๊ยยยย..ทำไม มันขายยากเย็น อย่างนี้ว่ะ
มีข้าวกล้อง คนก็อยากกิน...เอามีตีเข่า ป๊าบบ..ผลิตอันนี้ละว่ะ
....ยอดขาย ไม่คุ้มทุนอีกละ..เง้อ
.
.
ชาวนาสีข้าวขายเอง กริบ ไปละ...ทำไม มันไม่ทำต่อเนื่อง
.
สรุป ยอดขายไม่พุ่ง เข็นไปขายโรงสีง่ายกว่า ได้เท่าไร จับแม่ ชั่งกิโล มันเห๊อะ
.
หมดไฟ ไปตามกัน
.
หัวใจนักสู้ มันฝ่อ ไปเอง
.
ก็เล่นขายข้าวไรท์เบอรี่ซะแพง ลิงโดดเลย...มันเลยไม่โดน
.
ทดลองดู มันไม่มีอะไรง่ายๆ มนการแปรรูปแล้วขาย..กว่าจะถุงฝัน
มันต้องมาจากการวางแผน ดูนิสัยชุมชน
.
ข้าว สามกษัตริย์...(ตรา) มูแลง(ภาษาต่างประเทศ ซะหน่อย
ประกอบไปด้วย ข้าวขาว 60%-ข้าวกล้อง 2%-ไรท์เบอร์รี่ 20%......แค่นี้ต้นทุน ต่อ กิโล ก็ลดลงมา มากกว่าครึ่งละ.......ป้องกันเหน็บชาได้นะค่ะ มึคุณค่าทางอาหาร ทำให้แข็งแรงนะค่ะ...ถ้าทางเป็นประจำ ผิวพรรณจะสดใส่ เปล่งปรั่ง มีน้ำมีนวล...หรือ อื๋ม มากขึ้นนะค่ะ เพราะได้ รับ สารอาหารจะข้าว ไรท์เบอรี่ เป็นประจำค่ะ..........(ขายได้ดี ตรงอื๋ม ขึ้นนี่ละ 55)
.
.
มันอยูที่วิธีคิด ว่า เราจะเจาะลูกค้าฉเพาะกลุ่ม ตรงไหน
กลุ่มรักสุขภาพ รักสวยรักงาน+ราคา ที่ตำลง เท่าข้าวขาวปกติ..แต่ดีกว่า...แค่เนี้ย..
.
ที่เหลือคือ บรรจุภัณฑ์
.
สมัยนี้ ไม่ใช่ ขายกันทื่อๆ เดิมๆ
.
ทำไม ไม่มีลำใย อัดแก๊ส
ทำไม ไม่มี กระเจี๊ยบ อัดแก๊ส
.
ทำไม่ เช้ามา ยังมีแต่แกงถุง ที่รสชาด เหี๊ยๆ
ทั้งที่ มันมีทางเลือก ที่ดีกว่านั้น ในราคาเท่ากันแต่ดูดี
.
ทำไม มีข้าวต้มปลาหมู ไก่ ที่ต้องไปยืนรอเข้าคิดซื้อ ทั้งที่มันพัฒนา ไปได้ไกล กว่านั้น
.
ตรงนี้ละ ที่บอกว่า ยังไง ก็มีช่องว่าให้เรา แทรกตัว เข้าไปได้ เสมอ
สำหรับความคิดใหม่ๆ
จากคนรุ่นใหม่ ที่มีจิตนาการ
.

แล้วคุณละ....นั่ง อ่าน อยู่ทำไม
.
ไปคิด แล้วทำ 55555
.
ไปละ

ข้าวต้ม..."ยกซด" .

ลุงขอเสนอ
.
แทน แท๊นนนนนนนนนน
.
.
.
ข้าวต้ม..."ยกซด"
.
.
ใส่แล้วปิดฝาแบบน้ำส้ม หิมะ นั่นละ
.
แก้วละ 10 บาท มื้อเช้า
.
ต้ม วันต่อวัน ทำไป แพคไป ขายไป
.
ลงทุนเครื่อง 6-7 พัน
.
ข้าวต้ม(วิญญาณ)หมูสับ
ใส่แก้ว+ช้อนคัน 10 บาท
จิ้มพรวด ซดเลย
.
ถูกกว่าเอ็ม 100 ตั้งเยอะ มีประโยชน์ด้วย
ขยับราคานิด ใส่ ข้าวกล้อง ข้าวไรท์เบอรี่
ขยับอีกนิด...มีแปะกว๊ย บลาๆๆๆๆ
.
แค่นี้ก็มีอาชีพ ทำมาหากินละ

ไม่ว่างแต่ไปไหนไม่ได้

ไม่ว่างแต่ไปไหนไม่ได้
.
เอากล้วยตากไปใส่ กระป๋อง ก็ไม่ได้(มันไม่เวริต มันต้องมองเห็นกล้วยข้างใน)
.
เอากล้วยหอม คั้นน้ำ ไปใส่ถุงก็ไม่ได้(มันมองเห็นน้ำขุ่นๆ ไม่น่ากิน
.
กำแฟใส่กระป๋อง เพราะเราไม่ได้มองที่น้ำ เราสัมผัส ที่กลิ่น กาแฟ
.
ค่ากระป๋องที่เราต้องจ่ายไป 3-7 บาท/กระป๋อง มูลค่าน้ำ มันนิดเดียว

ที่นี้ ไอ้เครื่องปิดฝา กระป๋อง มันก็มีแบบ ราคาคนยาก คนจน เริ่มลงทุน
มือโยกเอาก่อน มีสักหมื่น ก็พอจะได้สักเครื่อง
กระป๋องนี่ละ ขึ้นตำ พันใบก็ --5-7000 บาท
.
ถ้าขายกันแบบเห็นๆ ก็วันต่อวัน ไม่ต้องใช้หม้อนึ่ง
สารพัดน้ำผลไม่ ทำขายได้เลย...
.
เอาสติ๊กเกอร์เล็กๆ แปะ สักดวง เมตรละ 500 บาท ได้หลายร้อยดวงอยู่ เล็กๆ
.
ที่นี้ถ้าจะทำรอไว้ ก็ต้องหม้อนึง ความดัน เพื่อฆ่าเชื้อ.. 3หมื่น บวกลบ
แบบนี้ ได้หลายวัน
.
ก็เป็นแนว ในการทำมาหากิน